ขั้นตอนการฟอกสีฟันเองที่บ้าน มีดังนี้
1.พบทันตแพทย์ที่คลินิก เพื่อพิมพ์ปาก สำหรับทำถาดฟอกสีฟันที่จำเพาะต่อบุคคล ป้องกันเหงือกไหม้ระหว่างฟอก ซึ่งดีกว่าถาดที่ซื้อหาได้จากออนไลน์
2.นัดมารับถาดฟอกสีฟันและน้ำยาฟอกสีฟัน ซึ่งเป็นน้ำยาที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกับในคลินิก “ไม่ทำให้เนื้อฟันบางลง” เพียงแต่เปลี่ยนสีโมเลกุลเนื้อฟันจากสีหมองคล้ำให้ขาวขึ้น
3.ฟอกสีฟันขาวเองที่บ้านตามที่ทันตแพทย์แนะนำ สามารถเก็บถาดฟอกสีฟันไว้ใช้ต่อได้เมื่ออยากให้ฟันขาวขึ้นอีก หรือเมื่อฟันเริ่มหมองจากการดื่มชา กาแฟ หรือกินแกงต่างๆ
เห็นผลทันทีหลังจากใช้น้ำยาฟอกสีฟันซึ่งสามารถทำต่อเนื่องทุกวัน ติดต่อกันสูงสุด 4 สัปดาห์ (ยกเว้นมีอาการเสียวฟันจนทนไม่ได้ แนะนำให้ทำวันเว้นวันแทนควบคู่กับการใช้ยาสีฟันลดอาการเสียวฟัน)
สีที่คล้ำขึ้นนั้นสามารถเกิดได้จาก 2 สาเหตุหลักๆ ได้แก่
- สาเหตุจากภายนอกตัวฟัน (Extrinsic) ซึ่งเป็นสาเหตุที่มีที่มาจากสีจากอาหาร การสูบบุหรี่ และส่วยผสมในเครื่องดื่มต่างๆ เป็นต้น
- สาเหตุจากภายในตัวฟัน (Intrinsic) เป็นสาเหตุที่มีที่มามาจากการสะสมสารมีสีต่างๆในเนื้อฟันขณะที่มีการสร้างฟัน หรือในกรณีฟันตาย เป็นต้น
โดยปกติแล้วจะมีอาการเสียวฟันน้อยกว่าแบบที่ฟอกในคลินิกมาก แต่ในบางคนอาจมีอาการเสียวฟันได้มากกว่าปกติ แนะนำให้ใช้ยาสีฟันลดอาการเสียวฟัน ควบคู่ระหว่างการฟอกสีฟันเสมอ และหากมีอาการผิดปกติให้ติดต่อทางคลินิก
โดยปกติแล้วจะอยู่ได้ที่ ประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี โดยอาจดรอปลงบ้างตามไลฟส์ไตล์การดื่ม และทานอาหารของแต่ละคน แต่ข้อดีก็คือสามารถซื้อน้ำยาสำหรับฟอกสีฟัน เพื่อฟอกเพิ่เมเติมได้ เมื่อสีฟันเริ่มหมองคล้ำขึ้น
1.น้ำยาที่ใช้ฟอกสีฟัน ต้องแช่ในตู้เย็นช่องปกติเสมอ เพื่อป้องกันน้ำยาเสียคุณภาพ
2.ไม่ควรใส่น้ำยามากเกินไป อาจทำให้มีน้ำยาล้นและระคายเคืองเหงือกได้ หากน้ำยาล้นระหว่างฟอกสีฟันให้ใช้ไม้พันสำลีเช็ดออก
3.ไม่ควรดื่มน้ำหรือทานอาหารระหว่างการฟอกสีฟัน แต่สามารถกลืนน้ำลายได้ปกติ หากรู้สึกแสบคอหรือระคายเคืองเหงือกให้กลั้วน้ำตามเยอะๆ